เทศน์เช้า

เทศน์ก่อนเวียนเทียน วันอาสาฬหบูชา

๑๖ ก.ค. ๒๕๔๓

 

เทศน์ก่อนเวียนเทียน วันอาสาฬหบูชา
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

เทศน์ค่ำ วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๔๓
ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

เรามาเวียนเทียนเพราะเราเกิดเป็นคน เกิดเป็นคนถึงต้องเวียนเทียนไง การเกิดเป็นคนประเสริฐ การเกิดเป็นคนเป็นผู้ที่ฉลาด การเกิดเป็นคนเป็นผู้ที่แสวงหาได้ไง การเกิดเป็นคนนี้บุญพาเกิด เราต้องมาสร้างบุญกุศลขึ้นมาเพิ่มขึ้นไปอีก ถ้าเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เกิดเป็นอย่างอื่นไป เขาไม่มีโอกาส เขาไม่มีปัญญาแยกแยะ เราเกิดเป็นคน เห็นไหม เกิดเป็นคนเพราะบุญพาเกิด บุญนี้พาเราเกิดมา เราต้องมาเวียนเทียนเพราะว่าเราจะระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

วันนี้วันสำคัญ วันอาสาฬหบูชา วันที่พระพุทธเจ้าประกาศธัมมจักฯ แล้วเกิดพระอัญญาโกณฑัญญะรู้ธรรมขึ้นมา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นแก้วสารพัดนึก นึกขึ้นมาเกิดที่ใจ คนเราเกิด ใจเป็นคนพาเกิด มนุษย์เกิดมานี่ มนุษย์เกิดขึ้นมาเป็นคนเพราะใจมาเกิดเป็นมนุษย์ มนุษย์ไม่ได้เกิดจากพ่อแม่เหรอ? เกิดมาจากพ่อแม่ในทางโลก แต่บุญกุศลพาเกิด ถ้าไม่มีบุญกุศลพาเกิด จะเกิดในทางอื่น บุญกุศลนั้น เห็นไหม แก้วสารพัดนึก ย้อนกลับลงมาที่ใจ

ฉะนั้น ใจนี้ถึงเป็นที่ว่า นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เวลาเราเวียนเทียนน่ะ นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์...พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นั้นเป็นนามธรรม แต่ผู้ที่ปฏิบัติธรรมถึงธรรมแล้ว พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์รวมลงอยู่ที่ใจ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี่ เราไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้า พระธรรมนี้ก็อยู่ในตู้พระไตรปิฎก พระสงฆ์นี้ก็สมมุติสงฆ์ เป็นสงฆ์สาวก

แต่ผู้ที่ปฏิบัติรู้จริงเห็นจริง เห็นไหม ถึงจะเป็นคฤหัสถ์ก็จริงอยู่ แต่ใจนั้นถึงธรรมนะ พระพุทธ พระธรรมอยู่ที่ใจ ที่ใจนั้นพาไปเกิดเป็นพระอริยเจ้า แต่เราเข้าไม่ถึง...เราไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก เพียงแต่เราต้องการบุญกุศล ให้เติม เห็นไหม รถจะมาที่วัดนี่ต้องเติมน้ำมันมา เราจะไปเกิดต่อไป เรามีปัจจัย เรามีน้ำมันให้ใจไปเกิดไหม เห็นไหม อามิสทานไง นี่การเวียนเทียนได้บุญกุศลมากเพราะเราบูชาด้วยธูปเทียน ดอกไม้ เครื่องของหอมนี่ เป็นอามิส เป็นอามิสบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

นี้บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นี่ เวลาเวียนเทียนถึงให้ตั้งใจ ใครตั้งใจมากจะได้มาก เวียนเทียน เห็นไหม รอบแรกให้คิดถึง “พุทโธๆๆ” รอบที่ ๒ “ธัมโมๆๆ” รอบที่ ๓ “สังโฆๆๆ” ให้ฝังลงไปที่ใจ ใจนึกถึง เวียนเทียนนี่มันจะซึ้งใจมากถ้าเจตนาเปิดกว้างขึ้นมา เวียนเทียนจะซึ้งใจมาก แล้วคิดถึงเมื่อไหร่มันก็จะคิดถึงตรงนี้ไง คิดถึงตรงนี้ นี่บุญกุศลมันจะฝังไปๆ

มันเป็นการว่าเราฝึกใจของเราขึ้นมา ใจของเราเราต้องฝึกขึ้นมา เพราะเราเป็นคน เห็นไหม บอกว่า ทำไมต้องเวียนเทียน? เพราะเราเป็นคน คนเป็นคนที่ฉลาด ฉลาดกว่าสัตว์ทุกๆ อย่าง แล้วสิ่งที่ประเสริฐที่สุดคือเรื่องของหัวใจ เรื่องของหัวใจอะไรเป็นอาหารของใจ อาหารของใจ คือบุญกุศลเป็นอาหารของใจ เราหาสิ่งนั้นฝังลงไปที่ใจนั้น แล้วใจจะพาเกิดไปอีกเรื่อยๆ เห็นไหม

รถมีน้ำมันพาเกิดไปเรื่อยๆ มันก็หมุนเวียนไปเรื่อยๆ ความหมุนเวียนไป ใจเกิดสูงขึ้นไป ไม่ต้องเกิดทุกข์เกิดยากอยู่ปัจจุบันนี้ ปัจจุบันนี้เราบ่นกันว่าเราทุกข์เรายาก เราอยากจะมีความสุข แล้วทำดีก็ไม่เห็นได้ดีเลย คนอื่นเขาทำไม่ดีทำไมเขาได้ดีกันอยู่...เราไปมองคนอื่น เราไม่มองตัวเรา เรามีความสุขที่สุด เพราะเราเป็นคน เป็นคนนี่กฎหมายรองรับ เราจะทำผิด เขาจะรังแกเรา นี่กฎหมาย

ถ้าเราเกิดเป็นอย่างอื่น ในสถานะของคนนี่มีคุณสมบัติมาก คนนี่มีสถานะเป็นสิ่งที่ประเสริฐ พระพุทธเจ้าเกิดเป็นคน พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ที่คน เพราะอะไร เพราะคนมีความสุขกับมีความทุกข์ ความทุกข์นี่ทำให้เราระวังตัว ความทุกข์ทำให้เราพยายามแสวงหา ที่ไหนร้อน เราพยายามเข้าหาที่เย็น เห็นไหม

นี่ถ้าว่าประเสริฐ ประเสริฐตรงไหน? ประเสริฐตรงนี้ไง เราแบ่งแยกได้ มืดกับสว่าง มามืดไปสว่าง มาสว่างไปมืด เห็นไหม นี่สว่างมืด มืดที่ไหน สว่างมืดข้างนอกนั้นก็เป็นดวงอาทิตย์ขึ้นและดวงอาทิตย์ตก แสงสว่างข้างนอก นี่มันไม่เปิดจ้าอยู่ในหัวใจ หัวใจมืดบอด

ศาสนาสอนว่าอย่างไร ไปวัด วัดทำอย่างไรกัน ทำบุญ บุญเป็นอย่างไรไม่รู้จัก แล้วทำบุญแล้วก็ไม่ได้บุญ บ่นกะปอดกะแปดไปตลอด เห็นไหม นี่จิตใจอ่อนแอ จิตใจที่เต็มไปด้วยโลก มันไม่สามารถยืนขึ้นมาได้

ถ้าจิตใจฉลาดขึ้นมา ทุกข์นี้เป็นอริยสัจ ทุกข์นี้เป็นความจริง ทุกข์นี้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เราเกิดมาต้อง...ทุกข์นี้เป็นอริยสัจ ทุกข์นี้เป็นสิ่งที่ประเสริฐ แต่เราไม่เคยเห็นทุกข์ เราไปบ่นอาการของความทุกข์มันผ่านไปแล้วไง บ่นน้อยอกน้อยใจต่อเมื่อมันผ่านไปแล้ว นั่นคืออาการของมัน เหมือนกับเราไปเที่ยวมาจนหมดตัวแล้วเราก็มารำพึงว่า ไม่สมควรไปเลย เงินทองเสียไปเปล่าๆ แต่เวลาเที่ยวมันสนุกอยู่

นี้ก็เหมือนกัน เวลาทุกข์นี่มันไม่เข้าใจตรงนั้น แล้วมันไม่เคยแสวงหาออกไป เห็นไหม ว่าเกิดเป็นคนประเสริฐ ประเสริฐตรงนี้ ประเสริฐที่สุด เกิดเป็นมนุษย์นี่ แล้วประเสริฐที่สุดแล้วยังฉลาดอีก เห็นไหม สิ่งที่ว่าเป็นของที่ไม่มี ไม่ต้องลงทุนลงแรงมากเลย การทำบุญกุศล เห็นไหม นี่มาเวียนเทียน มาคิดถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คิดถึงนะ แก้วสารพัดนึก ให้รวมลงที่ใจ รวมลงที่ใจแล้วเราก็ฝังไป สร้างไป

เหตุถ้าเราไม่ทำ เรานึกอยู่ที่บ้าน เรานึกไม่ออก เราต้องมาทำก่อน สร้างเหตุ เหตุแล้วไปหาผล ทุกข์ก็เหมือนกัน เวลาทุกข์น่ะ เราต้องสาวไปหาเหตุ เหตุเพราะอะไร? เหตุเพราะมันไม่พอใจ เหตุเพราะใจมันขัดข้อง ถ้าใจมันไม่ขัดข้องนะ คนมีฐานะเขาอยากจะมีฐานะแบบคนทั่วไป ตกเย็นขึ้นมามีความสุข เห็นไหม เราชาวนาชาวไร่นี่ ตกเย็นขึ้นมาร้องรำทำเพลงมีความสุข คนที่เขามีเงินเขาอยากเป็นแบบนั้น เราก็อยากมีเงินแบบคนมีเงิน มีเงินนี่เขาบอกมีความสุข ต่างคนต่างมองฝ่ายตรงข้ามว่าตรงข้ามมีความสุข

แต่ความจริงนี่เป็นความทุกข์ทั้งหมด เพราะอะไร เพราะคนพามาเกิด นี่ย้อนกลับมาที่ใจ ใจพามาเกิด ใจเกิดนั้นคือใจที่มีอวิชชา ใจที่มีอวิชชาคือมีเชื้อแห่งความเกิด เชื้อแห่งความเกิดนั้นเป็นตัวแห่งความทุกข์ ตัวแห่งความทุกข์นั้นมีทุกดวงใจ เสมอภาคกันหมดเลย ไม่มีใครสูงใครต่ำกว่ากันด้วยเรื่องของความทุกข์ ไม่มี เพียงแต่คนยึดมากหรือยึดน้อย

ถ้าคนคนไหนยึดความทุกข์มาก คนนั้นก็มีความทุกข์มาก คนไหนผ่อนคลายได้ ปล่อยวางได้ ปล่อยวางด้วยสัจจะความจริงนะ ไม่ใช่ปล่อยวางด้วยกิเลสมันหลอกอีกชั้นหนึ่ง เขาให้ปล่อยวาง จะทำงานก็ไม่ทำงาน ขี้เกียจ ไม่ทำงาน ศาสนาสอนให้ปล่อยวาง...ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้ขี้เกียจ ศาสนาพุทธสอนให้เข้าไปต่อสู้ สัจจะความจริง รู้ความจริงแล้วปล่อยวางความจริงไว้ตามความเป็นจริง ไม่ใช่ปล่อยวางด้วยมืดบอด

นี่เราเป็นชาวพุทธกัน แต่เราไม่เข้าใจเรื่องศาสนา ว่าปล่อยวางๆ แล้วก็นอนอยู่บ้านเฉยๆ ปล่อยวางๆ อันนั้นมันปล่อยวางร่างกาย แต่มันยึดหัวใจอยู่ชัดๆ ถ้าปล่อยวาง ทำไมทุกข์ไม่ออกไปจากใจล่ะ เห็นไหม นี่ใจเป็นสิ่งที่สำคัญ

ฉะนั้น เราทำบุญกุศล มาเวียนเทียน มาทำบุญกุศลนี่ เขาบอกเวียนเทียนกุศลทำไมต้องเวียน? เวียนเพราะเราเป็นมนุษย์ เราเกิดเป็นคน เกิดเป็นคน เป็นผู้ฉลาด แสวงหาสิ่งที่เป็นประโยชน์กับหัวใจของเรา

สิ่งที่เป็นประโยชน์กับร่างกายของเราคืออาหาร อาหารนี่เรากินเข้าไปแล้ว เราได้กินแล้ว ได้อยู่อาศัยกับร่างกายแล้ว แต่อาหารของใจเราต้องหาเพิ่มเข้าไปให้ที่ใจ แล้วใจจะได้ไปเกิดให้ไม่อยากพบกับความทุกข์ที่เป็นทุกข์ๆ อยู่ปัจจุบันนี้ ฉะนั้น ถึงว่าเป็นคนถึงประเสริฐ แล้วฉลาด คนที่ฉลาดถึงจะหาสิ่งที่เป็นประโยชน์ใส่ตัวได้ เห็นไหม แล้วอันนี้มันถึงเป็นประโยชน์กับเรา

ฉะนั้นเดี๋ยวเราจะพาเวียนเทียนนะ นี่พูดให้ฟัง แล้วตั้งใจไว้ ตั้งใจ จะพาทำวัตรก่อน ให้น้อมถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เสร็จแล้วจะพาทำวัตรรอบหนึ่งก่อน เอวัง